top of page
Search
Writer's pictureลลิตา

โพสต์นี้ยาวหน่อยนะคะ แต่รับรองว่าข้อมูลนี้มีประโยชน์มากค่ะสำหรับใครที่กำลังต้องการแปลเอกสาร 👌

เคยสงสัยไหมคะว่าการแปลเอกสารที่เค้าว่ามี 2 แบบคือ extract กับ full translation เนี่ย มันต่างกันอย่างไร วันนี้จะมาคลายข้อสงสัยให้ค่ะ



การแปลแบบแรก คือ extract translation เป็นการแปลเฉพาะส่วนสำคัญหรือเฉพาะข้อมูลที่จำเป็น ซึ่งคำถามสำคัญก็คือเราต้องการเอกสารนี้ไปใช้ทำอะไรและใครเป็นผู้ขอเอกสาร การแปลแบบนี้ส่วนใหญ่ใช้กับเอกสารที่จะยื่นกับทางการของออสเตรเลีย ตัวอย่างเช่น ถ้าเค้าต้องการดูใบเกิดเรา เค้าต้องการดูว่าเราเกิดที่ไหน (ชื่อจังหวัด) ชื่อและนามสกุลตอนเกิด ชื่อบิดามารดา เป็นต้น เค้าจะไม่สนใจว่าเกิดบ้านเลขที่เท่าไหร่ เด็กเกิดน้ำหนักเท่าไหร่ ปีวอกหรือปีจอ ข้างขึ้นหรือข้างแรม นายทะเบียนชื่ออะไร ใครไปแจ้งเกิด การแปลแบบนี้จะรวดเร็วและราคาถูกกว่าเยอะค่ะ และอีกอย่างคือ ข้อมูลสำคัญจะถูกนำมาสรุปให้อ่านง่าย สะดวกและได้ประโยชน์ทั้งสองฝ่ายค่ะ


การแปลแบบที่สองคือ full translation (แปลเต็ม) เป็นการแปลทุกอย่างที่คงรูปของเอกสารเดิมทุกอย่าง แม้แต่ตรงไหนมีลายเซ็นต์ ตราประทับ การขีดฆ่า อะไรพวกนี้เราจะต้องระบุทั้งหมด การแปลจะคงรูปเอกสารเดิมให้ได้มากที่สุด แต่จะต้องแปลทุกอย่างซึ่งจะใช้เวลานานกว่าการแปลแบบ extract มากและราคาแพงกว่ามากด้วยค่ะ การแปลแบบนี้ส่วนใหญ่หน่วยงานรัฐบาลของไทยจะใช้ หรือหากเราต้องการสมัครเรียนที่นี่แล้วเอาใบแสดงผลการเรียน (transcript) จากไทยมาก็ควรจะแปลแบบนี้ค่ะ โดยเฉพาะถ้าทางโรงเรียนที่นี่ต้องการดูรายชื่อวิชาที่เรียนมา


รู้อย่างนี้แล้วก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรแปลแบบไหน หากไม่จำเป็นต้องแปลเต็ม แปลแบบย่อก็พอค่ะ ประหยัดเงินด้วย แต่ถ้าไม่แน่ใจ ทางออกที่ดีที่สุดคือการถามผู้ขอเอกสารมาค่ะว่าเค้าต้องการให้เราแปลแบบไหน


เขียนโดย เกดหรือลลิตา จาก Dara Thai Translation

1 view0 comments

Comments


bottom of page